การขอกรีนการ์ด
ผ่านการสมรส
กับพลเมืองอเมริกัน
การสมรสกับพลเมืองอเมริกันเป็นหนึ่งในเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดที่จะได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยอย่างถาวรและได้และได้เป็นพลเมืองอเมริกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นไปอย่างอัตโนมัติ เพราะยังมีขั้นตอนอีกมากมายรวมถึงการกรอกแบบฟอร์มเพื่อสมัคร การตรวจร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ และการอนุมัติอีกหลายขั้นตอน สำหรับบางคนขั้นตอนเหล่านี้อาจกลายเป็นปัญหาสำคัญด้านการย้ายถิ่นฐานในระยะยาวทีเดียว
I. การสมัครขอกรีนการ์ดผ่านการสมรส
กระบวนการเริ่มด้วยการกรอกแบบฟอร์มพลเมืองอเมริกัน I-130 คำร้องสำหรับญาติต่างด้าวพร้อม USCIS (บริการเพื่อพลเมืองอเมริกันและการย้ายถิ่นฐาน) สิ่งนี้จะทำให้คุณสร้างตัวตนความสัมพันธ์ที่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างคุณกับผู้ที่คุณตั้งใจให้เป็นคู่สมรสพร้อมกับขอวีซ่าสำรองเอาไว้ด้วย เมื่อ I-130 ได้รับอนุมัติ นั่นก็หมายถึงว่ารัฐบาลรับรองความสัมพันธ์ของคุณแล้ว
ญาติสายตรงจะได้รับสิทธิบางอย่างมากกว่าความสัมพันธ์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับการย้ายถิ่นฐานของครอบครัว สิทธิพิเศษต่างๆ จะจำกัดจำนวนของคนที่จะได้รับกรีนการ์ด และอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้หมายเลขวีซ่า คู่สมรสของพลเมืองอเมริกันที่มาปรากฏตัวที่สหรัฐอเมริกาอาจสามารถสมัครขอปรับสถานะมามีถิ่นที่อยู่ถาวรพร้อมๆ กับการกรอกฟอร์ม I-130 การทำเช่นนี้จะช่วยให้ USCIS เร่งกระบวนการต่างๆ และทำให้ตัดสินใจเร็วขึ้น การปรับสถานะเฉพาะบุคคลนั้นมีเอกสารดังนี้
-
แบบฟอร์ม I-130 คำร้องสำหรับญาติที่เป็นคนต่างด้าว
-
แบบฟอร์ม I-130A ข้อมูลเสริมสำหรับการรับประโยชน์ของคู่สมรส
-
แบบฟอร์ม I-485 ใบสมัครเพื่อการอยู่อาศัยถาวรและปรับสถานะ
-
Form I-864, Affidavit of Support
-
แบบฟอร์ม I-765 ใบสมัครขอใบอนุญาตทำงาน
-
แบบฟอร์ม I-131 ใบสมัครเพื่อขอเอกสารเดินทาง
อาจต้องใช้เอกสารประกอบเพิ่มเติมด้วย
II. สิ่งจำเป็นสำหรับวีซ่าประเภทนี้
สิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการสมรสกับพลเมืองอเมริกัน
-
การแต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย (จากประเทศใดก็ได้)
-
คู่สมรสทั้งคู่ต้องไม่แต่งงานกับผู้อื่นอยู่ในขณะเดียวกัน
แต่ ยังมีสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่นคำมั่นสัญญาในการสมรส ช่วงเวลาที่มาปรากฏตัวอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พื้นฐานสำหรับเงื่อนไขที่ไม่อาจรับได้ และการถือวีซ่าผู้อยู่อาศัยชั่วคราวก่อนหน้านั้น
III. การสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การได้รับกรีนการ์ดผ่านการสมรสนั้นจะได้รับการสอดส่องอย่างเข้มงวดจาก USCIS เพื่อป้องกันการแต่งงานโดยฉ้อโกง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องยื่นหลักฐานจริงเกี่ยวกับการแต่งงานของคุณและหลักฐานความตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ร่วมกัน ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแบบฟอร์มหลักฐานที่ยอมรับได้คือ :
-
หลักฐานที่จะพิสูจน์ว่ามีหลักทรัพย์ร่วมกัน (เช่น บัญชีธนาคารที่มีร่วมกัน สถานะบัตรเครดิต การคืนภาษี กรมธรรม์ประกันภัย สินเชื่อ ฯลฯ
-
เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ร่วม (เช่น บ้าน รถ ฯลฯ)
-
สูติบัตรของบุตรที่เกิดจากการสมรส
-
การมีเอกสารประกอบสนับสนุนหลายอย่างจะช่วยให้กรณีของคุณหนักแน่นขึ้นและเอกสารแต่ละอย่างก็ควรต้องมีชื่อคู่สมรสทั้งคู่เป็นสำคัญ
IV. พื้นฐานสำหรับเงื่อนไขที่ไม่อาจรับได้
ผู้ที่สมัครเพื่อเข้าสู่สหรัฐอเมริกาจะถูกตรวจสอบเงื่อนไขที่ไม่สามารถรับได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความถึงคนที่มีประวัติหรือมีความเกี่ยวโยงกับอาชญากรรม กิจกรรมเกี่ยวกับการก่อการร้าย การใช้สารเสพติด ปัญหาเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ หรือคุณลักษณะอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ ตัวอย่างบางประการของผู้ที่มีเงื่อนไขไม่อาจรับเข้าประเทศได้คือ
-
เป็นโรคติดต่อเช่นวัณโรค (อาจได้รับยกเว้น)
-
ผิดปกติด้านร่างกายหรือจิตใจซึ่งเป็นความผิดปกติที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นและ/หรือตนเอง (อาจได้รับยกเว้น)
-
ผู้เสพสารเสพติด (ไม่มีการยกเว้น)
-
ผู้ค้าสารเสพติด (ไม่มีการยกเว้น)
-
ไม่ได้รับวัคซีนที่เหมาะสม (อาจได้รับการยกเว้น)
-
ก่ออาชญากรรม (อาจได้รับการยกเว้น)
-
ทำผิดกฎหมายการย้ายถิ่นฐาน (อาจได้รับการยกเว้น)
-
ขายบริการทางเพศ (อาจได้รับการยกเว้น)
-
ก่ออาชญากรรมหลายคดี (อาจได้รับการยกเว้น)
-
เป็นสายลับ ผู้ก่อการร้าย นาซี (ไม่มีการยกเว้น)
-
ผู้ต้องพึ่งพิงความช่วยเหลือจากรัฐบาล (อาจได้รับการยกเว้น)
V. ความตั้งใจที่ผิด
การเข้าใจความหมายของ “ความตั้งใจที่ผิด” เป็นสิ่งสำคัญมากทีเดียว จากมุมมองของสหรัฐอเมริกา พวกเขาเข้าใจว่าคู่สมรสของคุณมีความตั้งใจที่จะกลับไปยังประเทศต้นกำเนิดจึงออกวีซ่าอยู่อาศัยชั่วคราวให้ แต่หากคนต่างด้าวใช้วีซ่าอยู่อาศัยชั่วคราวเพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าเมืองโดยการปรับสถานะก็จะถูกประเมินว่าเป็นการโกงวีซ่า สิ่งนี้รวมไปถึงการใช้การแต่งงานมาขอวีซ่าซึ่งจะถูกปฎิเสธได้หากใช้ในทางที่ผิด นอกจากนั้น การสมัคร I-130 และ I-485 ก็จะได้รับการปฎิเสธด้วยหากคู่สมรสของคุณมีความตั้งใจที่จะอยู่อาศัยอย่างถาวร
Vi. คู่หมั้นใช้เส้นทางที่ต่างออกไป
การสรุปใจความอย่างสั้นกระชับนี้เป็นพื้นฐานสำหรับคู่ที่สมรสกันแล้ว คู่รักที่หมั้นกันเอาไว้จะมีกระบวนการที่ต่างออกไปโดยการได้รับวีซ่า K-1 ผ่านการกรอกแบบฟอร์ม I-129F นั่นคือการร้องขอคู่หมั้นต่างด้าว ภายใน 90 วันหลังจากมาถึง คู่รักจะต้องแต่งงานและคู่หมั้นต่างด้าวจะต้องปรับสถานะมาเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร
เคสใหม่ / ปรึกษา
ขอบข่ายงาน
+ 1 (415) 745 - 3650
100 Pine Street, Suite 1250
San Francisco, CA 94111, USA
วีซ่าชั่วคราว (หนังสือตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว)
วีซ่า H-1B
วีซ่า L-1
วีซ่า E
วีซ่า R-1
วีซ่า O-1
วีซ่า P
วีซ่า B1/B2
วีซ่าผู้ตั้งถิ่นฐานภายใต้การว่าจ้างทำงาน
EB-1: แรงงานที่มีสิทธิพิเศษ
EB-2: ผู้มีวุฒิการศึกษาสูงหรือทำอาชีพที่เป็นที่ต้องการของชาติ
EB-3: แรงงานที่ได้รับ/ไม่ได้รับการฝึกทักษะ
EB-4: ผู้ทำงานด้านศาสนาและผู้ตั้งถิ่นฐานพิเศษ
EB-5: วีซ่านักลงทุน
การเนรเทศ / การถอดการพิจารณาคดี
การแก้ต่างในศาลการตั้งถิ่นฐาน
การยกเว้นมิให้จำคุกโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ยื่นอุทธรณ์
คำร้องแบบครอบครัว
วีซ่าหมั้น
วีซ่าสมรส
การปรับสถานะด้วยการสมรส
คำร้องสำหรับสมาชิกในครอบครัว
คำร้องสำหรับบุตรอุปการะ
ด้านมนุษยธรรม
ผู้อพยพและผู้ลี้ภัย
สถานะคุ้มครองชั่วคราว
VAWA
วีซ่า U
วีซ่า T
อื่นๆ